พืชมีการแลกเปลี่ยนก๊าซเกิดขึ้นหลายแห่ง ดังนี้ คือ
- ราก ออกซิเจนที่แทรกอยู่ในดินจะแพร่เข้าไปทางขนราก(ROOT HAIR)
- ลำต้น การแลกเปลี่ยนก๊าซจะเกิดขึ้นที่เลนติเซล(LENTICEL)
- ใบ การแลกเปลี่ยนก๊าซเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดที่ปากใบ(STOMATA)
การหายใจของพืชภายหลังการเก็บเกี่ยว
ภายหลังจากการเก็บเกี่ยวพืชแล้ว พืชเหล่านั้นจะมีการหายใจแตกต่างกัน- ราก ออกซิเจนที่แทรกอยู่ในดินจะแพร่เข้าไปทางขนราก(ROOT HAIR)
- ลำต้น การแลกเปลี่ยนก๊าซจะเกิดขึ้นที่เลนติเซล(LENTICEL)
- ใบ การแลกเปลี่ยนก๊าซเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดที่ปากใบ(STOMATA)
การหายใจของพืชภายหลังการเก็บเกี่ยว
- พืชที่มีอัตราการหายใจหลังการเก็บเกี่ยวสูง เช่น ผักกาดหอม ผักป่วยแล้ง
- พืชที่มีอัตราการหายใจต่ำ เช่น มันฝรั่ง
- พืชบางชนิดหลังจากการเก็บเกี่ยวอัตราการหายใจจะลดลง เช่น องุ่น ส้ม มะนาว สับปะรด เงาะ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ แตงกวา
พืชต่างชนิดกันก็มีอัตราการหายใจแตกต่างกัน เช่น ดอกคาร์เนชั่นมีอัตราการหายใจสูงกว่าดอกเบญจมาสประมาณ 3-4 เท่า
ข้อควรสังเกต
พืชที่มีอัตราการหายใจหลังเก็บเกี่ยวสูง จะเหี่ยวเฉาเร็วกว่าพืชที่มีการหายใจหลังเก็บเกี่ยวต่ำ
การคายน้ำของพืช
- ตามปกติ พืชจะคายน้ำในรูปของไอน้ำทางปากใบ
- ถ้าความชื้นในอากาศสูง ลมสงบ และอุณหภูมิต่ำ พืชจะคายน้ำออกมาในรูปของหยดน้ำทางรูเปิดปลายใบ(HYDATHODE) เรียกกระบวนการนี้ว่า GUTTATION
การดูดน้ำของพืช
น้ำเข้าสู่รากทางขนรากได้โดย
- กระบวนการออสโมซิส
- การแพร่ธรรมดา(DIFFUSION) โดยผ่านไปตามผนังเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช จากรากขึ้นไปสู่ยอดเกิดขึ้นโดยอาศัยกระบวนการต่างๆคือ
1. แรงดึงจากการคายน้ำ (TRANSPIRATION PULL) เมื่อพืชมีการคายน้ำทางปากใบ
2. แรงดันราก(ROOT PRESSURE) เมื่อ รากดูดน้ำเข้าสู่รากมากๆ จะเกิดแรงดันดันให้น้ำเคลื่อนที่เข้าไปสู่เซลล์ถัดไปตามท่อลำเลียงน้ำขึ้นสู่ยอด
3. CAPILLARY ACTION เกิดขึ้นได้เนื่องจาก แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของน้ำกับผนังด้านข้างหลอดในท่อลำเลียงของไซเลม (ADHESION)
ข้อควรจำ กระบวนการที่มีผลต่อการลำเลียงน้ำมากที่สุดคือแรงดึงจากการคายน้ำ
การลำเลียงแร่ธาตุ
1. การแพร่ธรรมดาจากบริเวณที่มีแร่ธาตุมากเข้าสู่บริเวณที่มีแร่ธาตุน้อยน้ำเข้าสู่รากทางขนรากได้โดย
- กระบวนการออสโมซิส
- การแพร่ธรรมดา(DIFFUSION) โดยผ่านไปตามผนังเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช จากรากขึ้นไปสู่ยอดเกิดขึ้นโดยอาศัยกระบวนการต่างๆคือ
1. แรงดึงจากการคายน้ำ (TRANSPIRATION PULL) เมื่อพืชมีการคายน้ำทางปากใบ
2. แรงดันราก(ROOT PRESSURE) เมื่อ รากดูดน้ำเข้าสู่รากมากๆ จะเกิดแรงดันดันให้น้ำเคลื่อนที่เข้าไปสู่เซลล์ถัดไปตามท่อลำเลียงน้ำขึ้นสู่ยอด
3. CAPILLARY ACTION เกิดขึ้นได้เนื่องจาก แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของน้ำกับผนังด้านข้างหลอดในท่อลำเลียงของไซเลม (ADHESION)
ข้อควรจำ กระบวนการที่มีผลต่อการลำเลียงน้ำมากที่สุดคือแรงดึงจากการคายน้ำ
การลำเลียงแร่ธาตุ
2. ACTIVE TRANSPORT เป็นการนำแร่ธาตุจากบริเวณที่มีความเข้มข้นน้อย ไปยังบริเวณที่มีแร่ธาตุมากกว่า โดยต้องใช้พลังงานจากการหายใจช่วย
ข้อควรระวัง
การลำเลียงแร่ธาตุเกิดขึ้นร่วมกับการลำเลียงน้ำในไซเลม
ธาตุอาหารที่พืชต้องการ
ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
1. ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณมาก ได้แก่
- ธาตุอาหารหลัก คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
- ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และซัลเฟอร์
2. ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อย ได้แก่เหล็ก แมงกานิส สังกะสี ทองแดง โบรอน โมลิดินัม และคลอรีน
การลำเลียงอาหาร
มึนซ์(MUNCH) อธิบายการลำเลียงอาหารว่า เมื่อพืชสังเคราะห์แสง ได้ผลผลิตเป็นน้ำตาลอยู่ในเซลล์ ทำให้น้ำออสโมซิสเข้าสู่เซลล์ จนเกิดแรงดันเต่งขึ้น จะดันให้สารละลายอาหารไหลเข้าสู่เซลล์ข้างเคียง และเกิดขึ้นเป็นทอดๆเข้าสู่โฟลเอม จนถึงเซลล์ปลายทางจะมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้น้ำตาลเป็นแป้ง ซึ่งเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำทำให้มีแรงดันออสโมติกต่ำ จึงหยุดเคลื่อนที่
ข้อควรระวัง- การลำเลียงอาหาร เกิดขึ้นทั้ง2ทิศทาง จากใบสู่ยอด และจากใบสู่ราก
- การลำเลียงน้ำเกิดขึ้นทิศทางเดียวคือ จากรากสู่ยอด